วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แอปเปิ้ล ผลไม้มากคุณค่า ที่มาพร้อมความอร่อย

ถ้าให้นึกถึงผลไม้ที่มีรสชาด หวานฉ่ำ หอม กรอบอร่อยสักชนิดละก็ ผมคิดว่าหลายท่านคงจะมีผลไม้ที่ชื่อ "แอปเปิ้ล"อยู่ในใจอย่างแน่นอน ปัจจุบันนอกจาการรับประทานแอปเปิ้ลแบบผลสดแล้ว เราอาจจะเห็นว่ามีการนำแอปเปิ้ลมาประกอบอาหารกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เค้กแอปเปิ้ล พายแอปเปิ้ล พวกสลัดต่าง ๆ หรือนำมาคั้นเป็นเครื่องดิ่ม แม้กระทั่งไวน์แอปเปิ้ลบางท่านอาจจะเคยดื่มมาแล้วก็ได้ ซึ่งความจริงแล้วแอปเปิ้ลไม่ได้สนองลิ้นในเรื่องของรสชาความอร่อยแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารและสรรพคุณทางยอย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว 

ท่านที่ชอบรับประทานแอ็ปเปิ้ล ท่านปอกเปลือกก่อนรับประทานหรือเปล่า ท่านทราบหรือไม่ว่าในแอปเปิ้ลที่ไม่ปอกเปลือกนั้น อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่และสารอาหารที่มีประโยชน์อีหลายชนิด ทั้งวิตามินเอ บี 1 บี 2 บี 6 ไบโอติน กรดโฟลิก กรดแพนโทเธอนิค เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมกกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมันสารอาหารเหล่านี้ มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน โดย เฉพาะวิตามินซี และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในแอปเปิ้ล จะช่วยป้องกันโรคหัวใจในผู้ที่รับประทานเป็นประจำ

แอปเปิ้ลยังช่วยควบคุมน้ำหนักเพราะมีแป้งและ น้ำตาลถึง 75% ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลา ไม่เกิน 10 นาทีดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลงทั้งทำให้ไม่รู้สึกหงุดหงิดและอ่อนเพลียระหว่าง รอเวลาอาหารมื้อใหญ่ แต่แอปเปิ้ลผลสด ๆ เท่านั้นที่มีสรรพคุณนี้ การดื่มน้ำแอปเปิ้ลไม่ทำให้หายหิวแต่จะทำให้น้ำหนักเพิ่มด้วย ทั้งนี้พลังงานที่ได้จากแอปเปิ้ลมีลักษณะพิเศษที่น่าสนใจคือ แอปเปิ้ลจะให้พลังงานค่อนข้างต่ำและค่อยเป็นค่อยไป เพราะแหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลคือ น้ำตาลฟรักโทสซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ในร่างกายช่วยให้ไม่รู้สึกหิว อิ่มนาน ผลที่ตามมาคือ ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนกินขนมหวาน จึงเหมาะกับคนไข้เบาหวานด้วยเช่นกัน

นอกกจากนี้การกิน แอปเปิ้ลวันละ 2-3 ผลช่วยลดปริมาณคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด แต่จะได้ผลมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แอปเปิ้ลลดคลอเลสเตอรอลในผู้หญิงได้ดีกว่าผู้ชาย ซึ่งคณะวิจัยมหาวิทยาลัยพอลซาบาทิเอร์ เมืองตูลูส ฝรั่งเศส ทดลองในอาสาสมัครวัยกลางคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย 30 คน โดยให้กินอาหารเหมือนเดิมทุกประการ แต่กินแอปเปิ้ลด้วยวันละ 3 ผล ทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน พบว่าอาสาสมัคร 24 คน มีปริมาณคลอเลสเตอรอลในเลือดลดลง บางคนลดมากกว่า 10% และเมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อยสลายไขมันแยกคลอเลสเตอรอลออกมาแล้ว เพคตินจะคอยดักจับคลอเลสเตอรอลเหล่านั้นนำไปทิ้งก่อนจะถูกดูดกลับเข้าสู่ ร่างกายเป็นการขจัดคลอเรสเตอรอลออกไป

เอาละครับทีนี้มาดูคุณประโยชน์ของแอปเปิ้ลโดยแบ่งตามสีกันบ้าง ตรงนี้อาจจะถูกใจคุณผู้หญิง เพราะช่วยในเรื่องของผิวพรรณได้เยอะทีเดียว

แอปเปิ้ลแดง - มีจุดเด่นที่ดีต่อสุขภาพคือมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมีอิลาตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น และชุ่มชื่นอีกด้วย

แอปเปิ้ลเขียว – มีรสเปรี้ยวอมหวานมากกว่าแอปเปิ้ลสีอื่นๆ เป็นสีที่ดีที่สุดในการใช้เป็นอาหารลดน้ำหนัก เพราะมีน้ำตาลน้อยและยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและ ยืดหยุ่นได้ดี

แอปเปิ้ลชมพู – มีสารฟิโนลิกมากที่สุดในบรรดาแอ๊ปเปิ้ลด้วยกัน ซึ่งสารฟิโนลิกนี้จะช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

แอปเปิ้ลเหลือง – มีประโยชน์ต่างจากสีอื่น ๆ โดยมีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก

ทราบอย่างนี้แล้ว รับประทานแอปเปิ้ลครั้งต่อไปก็อย่าปอกเปลือกทิ้งก็แล้วกันนะครับ

0 ความคิดเห็น: